วันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

การกระเจิงของแสง

วันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ.2553(วันแรก)
- เวลาเช้า
เห็นเป็นสีเทาๆ ก้อนเมฆอยู่ทั่วฟ้า แต่ยังส่องสว่างไม่ทั่วฟ้า ทำให้เห็นเป็นสองฝั่ง ฝั่งหนึ่งสีออก
ดำๆ อีกฝั่งสีออกขาวๆ





- เวลากลางวัน
ลักษณะคล้ายๆตอนเช้า แต่ตอนนี้ จะสว่างทั่วฟ้าแล้ว ก้อนเมฆหนากำลังบดบังดวงอาทิตย์
อยู่ ทำให้ไม่เห็นแสงอาทิตย์เล็ดลอด
ออกมา เห็นเป็นสีเทาๆ (และมีแนวโน้มสูงว่า
ฝนจะ
ตกในเวลานี้)




- ตอนเย็น
เห็นเป็นสีออกขาวๆเทาๆ เป็นช่วงที่ดวงอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า จะสว่างน้อยกว่า
ตอนกลางวัน





วันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ.2553(วันที่สอง)
- เวลาเช้า
เมฆไม่ทั่วท้องฟ้า เห็นจุดที่ดวงอาทิตย์ขึ้นเป็นสี
ขาวๆ เกิดจากการ
ที่เมฆหนาๆไปบดบังดวงอาทิตย์ทำให้แสงที่เราเห็น สีไม่เข้มมากนัก




- เวลากลางวัน
สีออกขาวๆ แสงกระเจิงไปทั่วฟ้า ดวงอาทิตย์ถูกก้อนเมฆบังอยู่






- เวลาเย็น
ดวงอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า สีส้มๆแถวบริเวณล่าง ส่วนบนๆ จะเป็นสีครึ้มๆเพราะแสงกระเจิงไม่ถึงแล้ว





วันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ.2553(วันที่สาม)
- เวลาเช้า
เห็นเป้นสีเทาๆ ดวงอาทิตย์กำัลังขึ้น ยังกระเจิงแสงได้ไม่มาก ยังคงถูกเมฆบดบังอยู่ จึงยังกระเจิงแสงออกมาให้เห็นได้ไม่มาก





-เวลากลางวัน
ดวงอาทิตย์ถูกเมฆบดบังอยุ่ ทำให้เห้นการกระเจิงแสงไม่มาก ทั่วฟ้าเป็นสีขาวๆ ออกครึ้มๆ เพราะไม่ค่อยมีแสงอาทิตย์้เล็ดลอดออกมา





-เวลาเย็น
เย็นวันนี้ดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าเร็วมาก ทำให้ทั่วฟ้าครึ้ม ไม่ีมีการกระเจิงของแสงแล้ว






วันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ.2553(วันที่สี่)
- เวลาเช้า
ท้องฟ้าเป็นสีดำๆ แสงยังกระเจิงไม่ทั่วฟ้า ดวงอาทิตย์พึ่งขึ้น เห็นส่วนที่ดวงอาทิตย์ขึ






-เวลากลางวัน
แสงกระจายไปทั่วฟ้าอ่อนๆ เห็นเป้นสีขาวๆ






-เวลาเย็น
เห็นเป็นสีส้มๆปลายๆฟ้า เป็นจุดที่ดวงอาทิตย์กำลังตก ตรงนั้นจะมีความเข้มแสงมาก แสงกระเจิงไปได้ไม่ทั่ว มีส่วนสีดำๆ อยู่ที่ไม่โดนแสง